เทคนิคการออมเงิน..ใช้จ่ายเป็น เงินเหลือเก็บ
1. ไม่ประมาทใช้จ่าย
เหตุผลหลักๆ ของเงินไม่พอใช้ หรือเงินไม่เหลือเก็บ ก็คือการประมาทใช้จ่าย ฟุ่มเฟือย และหมดไปกับการซื้อของจุกจิกเล็กๆ น้อยๆ และยิ่งถ้าหากมีโปรโมชั่นสินค้า ลดราคาหรือมีของแจกของแถม พ่วงมาด้วยแล้วล่ะก็ยิ่งเป็นอันตรายต่อกระเป๋าสตางค์แน่นอน บางครั้งเราประมาท ไปคิดว่า “นิดเดียวหน่า” “นิดเดียวเอง” “ราคาไม่ได้แพงมาก” แต่ด้วยราคาไม่แพง เล็กๆ น้อยๆ แต่รวมๆ กันแล้วอาจจะกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ก็ได้
วิธีแก้ไขง่ายๆ ก่อนอื่นก็รู้ตัวเองก่อนว่าเราเป็นคนที่ซื้อของจุกจิก มูลค่าไม่เยอะบ่อยๆ หรือ ซื้อของน้อยชิ้นแต่มูลค่ามาก จากนั้นก็ทำการแบ่งเงินไว้สำหรับชอปปิ้งในแต่ละเดือน เมื่อช้อปปิ้งถึงงบที่ตั้งไว้ก็ต้องหักห้ามใจ หยุดช้อปทันที สิ่งของอะไรที่มีอยู่แล้วก็ไม่ควรซื้อซ้ำ เพราะนอกจากจะเกินความจำเป็นแล้ว แล้วอาจหมดอายุก่อนจะได้ใช้ประโยชน์
2. ช้อปช่วง Sale ช่วยชีวิต
เทคนิคการออมสำหรับใครที่ชื่นชอบ และเสพย์ติดการช้อปเป็นชีวิตจิตใจ ในเมื่อเลิกช้อปไม่ได้ ก็หันมาช้อปช่วงเซลล์แทน เพราะแบรนด์ดังแต่ละแบรนด์ก็มักจะมีช่วงเวลานาทีทอง มาดูดเงินในกระเป๋าขาช้อปอยู่เรื่อยๆ ได้ของดี แบรนด์ ในราคาย่อมเยาว์ไว้ใช้ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ก็อย่าลืมทำการบ้านสักนิดว่าแต่ละแบรนด์จัดโปรโมชั่น หรือเซลล์ ในช่วงไหน จะได้กันเงินไว้ช้อปได้ทัน
ทางที่ดีที่สุดคือ ตั้งสติไว้ ลดอาการเสพย์ติดช้อปปิ้ง คิดตรึกตรองให้ดี ว่าสิ่งที่เรากำลังอยากได้นั้น มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน แล้ว “ฮึบ” ไว้ เก็บเงินใส่กระเป๋าตังค์ไว้ดีกว่า
3. บัญชีสำรองต้องมีไว้
เชื่อว่าทุกคนต้องบัญชีหลักไว้อย่างน้อย1บัญชีเพื่อรับเงินเดือนในแต่ละเดือน รู้ไหมว่านี่กับดักหลุมโต เพราะการมีบัญชีเดียวทำให้สามารถเข้าไปถอนหรือกดเงินจากบัญชีนั้นเมื่อไหร่ก็ได้ ผลที่ออกมาคือในบัญชีมีเท่าไหร่ก็ใช้หมดเกลี้ยง สุดท้ายสุขภาพการเงินก็ย่ำแย่เข้าขั้นวิกฤติ
ดังนั้นการมี 2 บัญชี สำหรับเงินเดือน 1 บัญชี และเงินออมสำรอง นี่เป็นอีกหนึ่ง เทคนิคการออมเงิน ที่ได้ผล เงินเดือนเข้าเมื่อไหร่ก็รีบทำการดึงไปฝากไว้อีกบัญชีและยิ่งเป็นบัญชีฝากประจำด้วยแล้วล่ะก็จะยิ่งช่วยให้การออมเงินสำเร็จได้แน่นอนเพราะไม่ว่าอยากจะถอนมากเท่าไหร่ ก็ถอนไม่ได้ สะสมเป็นเงินก้อนไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉินไม่ต้องเดือดร้อนไปพึ่งเงินกู้ให้เสียดอกเบี้ยยาวๆ
4. ฝากอัตโนมัติทางเลือกสายลืม
หลังจากมีบัญชีสำรองแล้ว สำหรับใครที่ใจไม่แข็งพอที่จะโอนเงินเข้าบัญชีสำรองทุกๆ เดือน แล้วล่ะก็ การให้ธนาคารผูกบัญชีโอนเงินฝากอัตโนมัติ ขั้นตอนก็ไม่ได้ยุ่งยากแค่เดินเข้าไปที่ธนาคาร และแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่าต้องการให้ธนาคารโอนเงินจำนวนเท่าไหร่ไปยังบัญชีสำรองในแต่ละเดือน ก็ยิ่งทำให้การออมเป็นเรื่องง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่เสียเวลา และไม่ต้องกลัวลืม เพราะธนาคารจะจัดการทุกอย่างให้เสร็จสรรพเรียบร้อย
ในยุคโมบายนี้ยิ่งทำสะดวกมากขึ้น ด้วยแอพพลิเคชั่นของแต่ละธนาคาร ที่สามารถตั้งค่าให้เราโอนเงินเข้าไปยังบัญชีปลายทางได้อัตโนมัติทุกๆ เดือน โดยไม่ต้องไปธนาคารเองเลย ใครที่จะมีข้ออ้างว่าไม่มีเวลา หรือเดินทางลำบาก ขี้ลืม จนไปถึงขี้เกียจ ข้ออ้างนี้ใช้ไม่ได้แล้วนะ
เห็นไหมว่าการออมเงินให้เป็นไปด้วยความราบรื่นนั้นไม่ยาก แต่ต้องเริ่มด้วยวินัย และความตั้งใจจริงที่จะออมเงิน แล้วหา เทคนิคการออมเงินที่เหมาะสมของตัวเอง หรือตัดค่าใช้จ่ายบางอย่างที่ไม่เป็นประโยชน์ออกไป แค่นี้ก็มีเงินเหลือเก็บไว้ใช้จ่ายยามจำเป็น และที่สำคัญอย่าลืมหมั่นตรวจเช็คสุขภาพการเงินกับ เครดิตบูโร สม่ำเสมอ รับรองอนาคตมีเงินเหลือเก็บให้ใช้แบบรัวๆ แน่นอน แล้วอย่าลืมติดตามเรื่องราวดีๆ ด้านการเงินกับ
อยู่บ้านนาน ๆ ทำยังไงไม่ให้เสพติดชอปออนไลน์
- เก็บบัตรเครดิตใส่ลิ้นชักล็อกกุญแจไว้ก่อน
ชอปออนไลน์แต่ละที ถ้ามีบัตรเครดิตอยู่ใกล้มือ หรือผูกบัญชีบัตรเครดิตไว้ในแอปพลิเคชั่น จะทำให้เราจ่ายเงินได้ง่ายมาก ๆ จนเผลอชอปหนักแบบไม่ทันคิด ฉะนั้นทางที่ดีควรเอาบัตรเครดิตไปเก็บไว้ให้มิดชิด ลบบัญชีบัตรเครดิตที่ผูกกับแอปไปก่อน เพื่อห้ามใจตัวเองไม่ให้เผลอซื้อง่ายเกินไปนั่นเอง
- Unfollow บล็อกเกอร์หรือเพจรีวิว
หลายครั้งเราซื้อของตาม Influencer ในโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง ขนม สินค้าเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อตัดกิเลสแต่ต้นลม แนะนำให้ Unlike/Unfollow บล็อกเกอร์เหล่านี้ไปก่อน ป้องกันไม่ให้เผลอใจอยากได้ของฟุ่มเฟือย
- ปิดแจ้งเตือนแอปพลิเคชั่น e-Commerce
พวกแอป e-Commerce จะมีระบบแจ้งเตือน (Notification) คอยแจ้งโปรโมชั่น แนะนำสินค้าที่เราน่าจะสนใจ เด้งขึ้นมาบนมือถือเราอยู่บ่อย ๆ ถ้าเผลอกดเข้าไปดู ก็จะเกิดอาการอยากซื้อขึ้นมาได้ง่าย ๆ เพราะแอปเหล่านี้มีข้อมูลอยู่แล้วว่าเราชอบซื้ออะไร ชอบของแบบไหน ฉะนั้นช่วงประหยัดแบบนี้ เลือกตั้งค่าปิดแจ้งเตือนของแอปไปก่อนนะคะ
- ถ้าชอบหักดิบ ก็ลบแอป e-Commerce ออกจากมือถือซะเลย
ถ้าลองวิธีด้านบน ๆ แล้วไม่ได้ผล ก็ขยับขึ้นมาอีกระดับ คือลบแอปชอปออนไลน์ทั้งหลายออกจากมือถือไปซะ เหลือไว้แค่แอปสั่งอาหารหรือแอปซูเปอร์มาร์เก็ตไว้ก็พอ
- หากิจกรรมอื่นทำ
บางทีที่เราชอปเยอะ อาจเป็นเพราะเราว่างมากเกินไป ใช้เวลาเล่นอินเทอร์เน็ตมากเกินไปในแต่ละวัน เลยทำให้ซื้อของเยอะไปด้วย ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ต่อให้ลบแอปชอปออนไลน์ออกไปก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้ เพราะอาจจะเผลอซื้อจากในเว็บไซต์ได้อีก สุดท้ายก็ต้องจัดการที่ต้นเหตุ คือเล่นโซเชียลให้น้อยลง ไปทำกิจกรรมอย่างอื่นแทน เช่น อ่านหนังสือ ทำอาหาร ทำงานฝีมือ
ถ้าทำได้ตามนี้ เราจะคุมค่าใช้จ่ายในช่วงวิกฤติได้ดีขึ้นเยอะ เหลือเงินไว้ใช้ในสิ่งจำเป็นนะคะ
AIA vitality
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น